กามคืออะไร

คุณคงได้ยินคำว่า  " กาม "มานานแล้ว  แต่คุณทราบ ไหมว่า

กามคืออะไร  หลายคนคงตอบว่าคือการ มีเพศสัมพันธ์

แต่อันที่จริง   กาม   คือ   ความรัก  ความใคร่   ความพอใจ

ที่รัก   ที่ใคร่    ที่พอใจ   

กามแบ่งออกเป็น

1.  กามคุณ  คือ  สิ่งปรารถนา 5 ประการ  ได้แก่  

  1.1  รูป  ได้แก่   ร่างกาย  ความงาม

  1.2  รส  ได้แก่   ความรู้สึกชอบใจ

  1.3  กลิ่น  ได้แก่  สิ่งที่รู้สึกด้วยจมูก

  1.4  เสียง  ได้แก่  สิ่งที่ได้ยินด้วยหู   คำที่เปล่งออกมา

  1.5  สัมผัส  ได้แก่  ความรู้ 3 อย่าง  คือ

        1. ตาเห็นรูป  ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นได้

        2.จมูกได้กลิ่น  ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นได้

        3.หูได้ยินเสียง   ทำให้รู้สึกขึ้นได้

2.  กามตัณหา   คือ  ความทะยานอยากในอารมณ์ที่รักใคร่

3.  กามภพ    คือ  ที่เกิดของสิ่งมีชีวิต( ไม่ใช่พืช ) ที่ยังเกี่ยวข้องด้วยกาม

4. กามราคะ  คือ  กำหนัดในกาม

5. กามาพจร  คือ  โลกแห่งกาม  มี 6  อย่าง  คือ

        1.  จาตุรมหาราชิกายิก  

        2 . ดาวดึงส์  สวรรค์ชั้น  2

        3. ดุษิต  สวรรค์ชั้น  4

        4. ยาม    1ยามมี  3ชั่วโมง  

        5. นิมมานนรดี    สวรรค์ชั้น  5  

        6 . ปรนิรมิตวศวรดิน

รัก  คือ   ชอบ  พอใจ

ความรัก   คือ   ความรู้สึกชอบ   ความรู้สึกพอใจ   ความผูกพันธ์   ความเมตตา   ความกรุณา 

ชอบ  แปลว่า  พอใจ  รักใคร่  ถูกต้อง

ชอบใจ  แปลว่า  ถูกใจ   ดีใจ   ยินดี   พอใจ    อยากได้

ชอบพอ  แปลว่า  เป็นที่ถูกใจกัน  รักใคร่กัน

ใคร่  แปลว่า  หวัง  อยาก   ปรารถนา  ใฝ่อยู่   ประสงค์

ประสงค์   แปลว่า   การมุ่งหมาย   ความต้องการ   การอยากได้
 
ปรารถนา   แปลว่า   มุ่งหมาย   ประสงค์  อยากได้  ต้องการ

อยาก   แปลว่า  ปรารถนา   ประสงค์   ต้องการ   หิว   กระหาย

ราคะ  แปลว่า   ความกำหนัด  ความยินดี

กำหนัด  แปลว่า  ความยินดี   ยินดี

ยินดี  แปลว่า   ดีใจ    ชอบใจ

ตัณหา   แปลว่า   ความปรารถนา   ความดิ้นรน   ความอยาก

อารมณ์   แปลว่า   ความรู้สึก    เรื่องหรือสิ่งที่คิด   ความสุข   ความเพลิน   เครื่องยึดหน่วงจิตใจ

เช่น  รูป   รส  กลิ่น  เสียง   นิสัยใจคอความเป็นไปแห่งจิตใจในเวลาหนึ่งๆ  

กิเลส   คือ   อารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจและทำให้ใจเศร้าหมอง  

สวรรค์  คือ  โลกที่ประกอบด้วยความสุข     ที่อยู่ของเทวดา  

โลก   คือ   หมู่มนุษย์    ส่วนหนึ่งของจักรวาล

โลกธรรม  คือ   ธรรมเนียมของโลก   ธรรมดาของโลก    ทางพระพุทธศาสนา  มี   8  ประการ    คือ

1.  มีลาภ     (  ลาภ  คือ   ของที่ได้หรือการได้มาอย่างงามโดยไม่คาดคิด   กำไร   การได้  การมา  )

2. เสื่อมลาภ   (  เสื่อม  คือ  เสียไป  สิ้นไป  ค่อยหมดไป   น้อยไป   หย่อนลง  ไม่เจริญ   )

3. มียศ  (  ยศ  คือ  ความงาม  ความดี  เกึยรติยศ   เกียรติคุณ   ความยกย่องนับถือเกียรติของตน

เครื่องกำหนดหมายฐานะหรือชั้นของบุคคล  )

4. เสื่อมยศ 

5. นินทา  คือ  คำติเตียน   ติเตียนลับหลัง

6. สรรเสริญ  คือ  พูดยกย่อง  ชมเชย

7. สุข   คือ   ความสะดวก    ความสบาย   ความสำราญ  ความสนุก   สะดวก   สบาย  น่ายินดี

เป็นที่พอใจ  เจรืญ  ดี  

8.ทุกข์  คือ  ความยาก   ความเจ็บปวด   ทุกข์แบ่งเป็น  3  ประเภท  คือ

  8.1  ทุกขนิโรธ  คือ ความดับทุกข์   พระนิพพาน

  8.2  ทุกขเวทนา  คือ   ความรู้สึกลำบาก  ความรู้สึกเจ็บปวด

  8.3  ทุกขสมุทัย   คือ   เหตุให้เกิดทุกข์     ตัณหาคือความดิ้นรน  แส่หา

โลกวิทู   คือ  ผู้ที่รู้แจ้งโลก   สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทรงเป็นผู้รู้แจ้งโลก  และทรงแจกจ่ายธรรม

(  คุณความดี  )  ทรงตรัสรู้เป็นพระอารยะเจ้า   ทรงสั่งสอนปวงชน  ให้เป็นผู้มีความประพฤติที่ดี

ไม่หลง  ไม่งมงาย  ไม่หลงงมงาย  และ  ไม่ประมาณ  ไม่ก้าวร้าว  ให้คนมี  สติ  สมาธิ  และ มีปัญญา

คลิกอ่านที่นี่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทสวดมนต์และทำนองสรภัญญะ 2

บ่วงกรรม

ลูก คือ แก้วตาดวงใจ